การเลือกใช้งานอุปกรณ์ก่อสร้างไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตาม ควรเลือกใช้งานให้ถูกประเภท เหมาะสมกับตัวงาน และได้มาตรฐาน สำหรับบ้านไหนต้องการติดตั้งหลังคาเมทัลชีท อุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ควรพิจารณาให้ดีก่อนเลือกใช้งานนั่นก็คือ “สกรูยึดแผ่นเมทัลชีท” เนื่องจากมีผลต่อความแข็งแรง ความปลอดภัย และอายุการใช้งานของโครงสร้าง สกรูยึดเมทัลชีทเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กแต่มีบทบาทสำคัญมาก ดังนั้นหากเลือกใช้ผิดประเภทหรือคุณภาพต่ำ อาจทำให้โครงสร้างเกิดปัญหาระยะยาวได้ บทความนี้ Sendo จึงอยากชวนทุกคนมาไขข้อสงสัยว่า สกรูยึดเมทัลชีท ใช้งานได้นานสุดกี่ปี? พร้อมแนะนำวิธีการเลือกใช้อย่างถูกต้อง เพื่อให้ทุกงานติดตั้งของคุณมีคุณภาพ
อายุการใช้งานของ สกรูยึดเมทัลชีท ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง
อายุการใช้งานของ สกรูยึดเมทัลชีท ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อความทนทาน และประสิทธิภาพของสกรู ในการยึดแผ่นเมทัลชีทเข้ากับโครงสร้าง โดยปัจจัยหลักๆ ที่มีผลต่ออายุการใช้งาน ได้แก่
1. วัสดุของสกรู
- สแตนเลส (Stainless Steel) มีคุณสมบัติทนทานต่อสนิมและการกัดกร่อนได้ดี เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือไอเค็ม
- เหล็ก (Steel) – มีคุณสมบัติยืดหยุ่นได้ดีและต้นทุนต่ำกว่าแบบสแตนเลส
2. การเคลือบป้องกันสนิมของสกรู
การเคลือบสกรูด้วยสังกะสี (Zinc Coating) หรืออะลูมิเนียม-ซิงค์ (Al-Zn Coating) มีส่วนช่วยป้องกันสนิม แต่ถ้าหากใช้สกรูเคลือบพิเศษ เช่น เคลือบ Xylan Ruspert หรือ Dacromet จะช่วยยืดอายุการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงได้
3. สภาพแวดล้อมการใช้งาน
- พื้นที่ชื้น หรือ ใกล้ทะเล – สกรูต้องเผชิญกับความเค็มและไอเกลือ ทำให้เกิดสนิมเร็วขึ้น
- บริเวณที่โดนฝนบ่อย – หากไม่มีการระบายน้ำที่ดี อาจทำให้เกิดสนิมและการกัดกร่อนเร็วขึ้น
- โรงงานอุตสาหกรรมที่มีสารเคมี – ไอระเหยจากสารเคมีบางชนิดสามารถกัดกร่อนโลหะได้
4. คุณภาพของการติดตั้ง
- ขันสกรูให้แน่นพอดี (ไม่แน่นเกินไปหรือหลวมเกินไป) ช่วยลดโอกาสการรั่วซึมและการสึกหรอ
- การใช้ แหวนรอง EPDM (ยางกันน้ำ) ช่วยลดการเสื่อมสภาพของรอยต่อระหว่างสกรูกับเมทัลชีท
5. การบำรุงรักษาและตรวจสอบ
- ควรตรวจสอบสกรูและเมทัลชีทเป็นระยะ หากพบสกรูเป็นสนิมหรือหลวม ควรเปลี่ยนใหม่
- ทำความสะอาดบริเวณหลังคาเมทัลชีท เพื่อลดการสะสมของสิ่งสกปรก ที่อาจเร่งให้เกิดสนิม
อายุการใช้งานโดยประมาณของ สกรูยึดหลังคาเมทัลชีท
- เหล็กชุบกัลวาไนซ์ (Galvanized Steel Screw) 5-10 ปี
- เหล็กเคลือบ Dacromet หรือ Ruspert 10-15 ปี
- สเตนเลส (Stainless Steel Screw 304/316) 15-25 ปี หรือมากกว่านั้นในบางสภาพแวดล้อม
จะเห็นว่า ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่ออายุการใช้งานของสกรูเมทัลชีททั้งสิ้น เพราะฉะนั้นหากเลือกใช้สกรูที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และติดตั้งอย่างถูกต้อง จะช่วยยืดอายุการใช้งานของ สกรูยึดเมทัลชีท ได้ยาวนานยิ่งขึ้น
เลือกคลาสของ สกรูยิงแผ่นเมทัลชีท ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
“สกรู” ในปัจจุบันมีความหลากหลายด้านคุณภาพและราคา โดยหลักสากลได้นิยามระดับคุณภาพสกรู และชั้นเคลือบที่แตกต่างกัน ด้วยคำว่า “Class” ซึ่งเป็นค่าที่บอกถึงความแข็งแรงทางกล (Mechanical Strength) ของสกรู โดยเฉพาะค่ากำลังดึง (Tensile Strength) และค่ากำลังคราก (Yield Strength) ตามมาตรฐาน ISO 898-1 โดยวิธีการเลือกคลาสสกรู มีคำแนะนำสำหรับการใช้งานเบื้องต้น ดังนี้
- Class 1 : ภายในอาคาร
- Class 2 : ภายนอกอาคาร
- Class 3 : ภายนอกอาคาร
หลักเกณฑ์การเลือกคุณภาพสกรูให้เหมาะกับงานหลังคา แนะนำให้เลือกสกรูที่มีอายุการใช้งาน และรับประกันเทียบเท่ากับการรับประกันของหลังคาเหล็ก โดยพิจารณาผลทดสอบ (Certificate) ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดชั้นเคลือบของสกรูตาม Class ที่เลือกใช้งาน เพื่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
แชร์เทคนิคการเลือกยาง สกรูยิงเมทัลชีท สำหรับงานหลังคา
การเลือกยางรองสกรู (Washer or Seal) ที่เหมาะสม มีความสำคัญมาก เพราะช่วยป้องกันน้ำรั่วซึม และยืดอายุการใช้งานของหลังคา โดยต้องพิจารณาหลายปัจจัย เพื่อให้ได้ยางที่ทนทานและเหมาะกับสภาพแวดล้อม โดยพิจารณาจากหลายปัจจัย ดังนี้
1. วัสดุของยางรองสกรูที่ควรเลือก – ควรเลือกยางรอง EPDM (Ethylene Propylene Diene Monomer) เพราะทนแสง UV และมีอายุการใช้งานยาวนาน หลีกเลี่ยงยาง Neoprene ในงานกลางแจ้ง เพราะอาจเสื่อมสภาพเร็วเมื่อโดนแสงแดด
2. รูปทรงและขนาดของยางรองสกรู – ขนาดของยางรองควรพอดีกับหัวสกรูและแผ่นเมทัลชีท เพื่อป้องกันการรั่วซึม ที่สำคัญควรใช้ยางรองที่มีขนาดใหญ่กว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของสกรูเล็กน้อยเพื่อปิดรอยเจาะ
3. วิธีตรวจสอบคุณภาพยางรองสกรู – ก่อนใช้งานควรตรวจสอบว่ายางรองมีคุณภาพดีพอหรือไม่ ด้วยวิธีการทดสอบการกดและคืนตัว ทดสอบความยืดหยุ่น รวมถึงเช็กสีของยาง และตรวจสอบรอยแตกร้าวของยางอยู่เสมอ แนะนำว่าควรใช้ยางที่มีเครื่องหมายคุณภาพ เช่น EPDM UV Resistance หลีกเลี่ยงการใช้ยางรองที่เก็บไว้นานเกิน 1 ปี เพราะอาจเสื่อมสภาพ
4. เทคนิคการติดตั้งให้ยางรองแนบสนิท – แนะนำว่าควรขันสกรูให้แน่นพอดี ใช้สกรูที่มีแหวนรองโลหะ (Bonded Washer) และต้องติดตั้งในตำแหน่งที่ถูกต้อง เพื่อการใช้งานที่ทนทาน ไม่มีปัญหารั่วซึม
ขนาดและวิธีการเลือก สกรูยึดเมทัลชีท ท้องลอน กับ สันลอนต่างกันอย่างไร ?
ปัญหาหลังคาปลิวหลุดเนื่องจากลมพัดแรง จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไปถ้าคุณรู้วิธีการเลือกขนาด สกรูยิงเมทัลชีท ที่เหมาะสมกับตำแหน่งติดตั้ง ซึ่งแบ่งเป็น 2 แบบหลัก คือ สกรูยิงท้องลอน กับ สกรูยิงสันลอน ซึ่งมีขนาดและวิธีการใช้งานต่างกัน ดังนี้
1. สกรูยิงท้องลอน (Valley Fixing)
ใช้ยิงที่ร่องลอนต่ำสุดของแผ่นเมทัลชีท มีขนาดสั้นเพราะยึดติดกับแปโดยตรง (12-14 x 20 mm – 35 mm) จุดเด่นของสกรูยิงท้องลอนคือ แผ่นเมทัลชีทไม่เสียรูป รับแรงลมได้ดี นิยมใช้กับหลังคาโรงงาน หรือพื้นที่ที่ต้องการให้แผ่นแนบแน่น
2. สกรูยิงสันลอน (Crest Fixing)
ใช้ยิงที่สันสูงสุดของแผ่นเมทัลชีท มีขนาดยาวกว่าท้องลอน เพราะต้องผ่านสันลอนก่อนถึงแปเหล็กกล่อง (12-14 x 55 mm – 65 mm) จุดเด่นของสกรูยิงสันลอนคือ ช่วยป้องกันน้ำรั่วซึมดีกว่า (ถ้าใช้ยางรอง EPDM) นิยมใช้กับบ้านพักอาศัย โกดัง หรือโรงงานที่ต้องการป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึม
หากสนใจสั่งซื้อ สกรูยึดเมทัลชีท ที่ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน ป้องกันการรั่วซึมได้ดี แบรนด์ Sendo เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะที่นี่เราเป็นทั้งผู้ผลิต / นำเข้า และจัดจำหน่ายสกรูหลากหลายประเภท ดังนั้นหากต้องการสกรูที่ไว้ใจได้ ใช้ได้นาน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย Sendo เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า!
Sendo Fastener แหล่งจำหน่าย สินค้าโลหะภัณฑ์ ได้มาตรฐาน ซื้อง่าย ครบ จบในที่เดียว!
หากคุณสนใจสั่งซื้อ สินค้าโลหะภัณฑ์ เหล็กสำหรับติดตั้งโครงสร้างเหล็ก หรือยึดแปเหล็ก รับรองว่าซื้อที่ Sendo Fasteners ได้สินค้าครบ จบในที่เดียว! เพราะที่ Sendo เราเป็นทั้งผู้ผลิต / นำเข้า และจัดจำหน่ายสินค้ากลุ่ม Fasteners and Metal works อาทิเช่น สกรู (น็อต), โลหะภัณฑ์ และ รับตัดแผ่นเพลท, J bolt / L bolt และยังสามารถผลิตสกรูตามสเป็กที่ลูกค้าต้องการ แบบ Made to Order (OEM)
ที่ Sendo เรามีความเข้าใจสินค้าและผู้ประกอบการเป็นอย่างดี สกรูทุกชิ้นผลิตจากโรงงานในประเทศไทย (Made in Thailand) ใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยได้มาตรฐานสากล ผลิตสินค้าให้กับผู้ประกอบการทุกอุตสาหกรรม ทำให้ได้รับความไว้วางใจ เพราะ สามารถเข้าถึงการผลิตของเรา ได้ในทุกขั้นตอน ที่สำคัญหากคุณมีข้อสงสัยในเรื่องใด ทางเรามีทีมช่างที่พร้อมให้คำปรึกษาคุณ อย่างใกล้ชิด เกี่ยวกับสินค้าภายในร้านทุกประเภท
ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่
Line OA : @sendothailand
Phone : 033-166-999 / 062-398-9494
Facebook : sendothailand
Email : sale@sendothailand.jp
