เชื่อว่าหลายๆ ท่านในที่นี้เคยได้ยินคำว่า “สกรูเกลียวปล่อย (น็อตเกลียวปล่อย) (Self Tapping Screw)” กันอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่รู้วิธีการใช้งานอย่างแน่ชัด ก่อนอื่นต้องขออธิบายเกี่ยวกับหลักการของสกรูเกลียวปล่อย (น็อตเกลียวปล่อย) กันก่อน โดยอุปกรณ์ช่างประเภทนี้ จะใช้สำหรับเจาะ และยึดชิ้นงานต่างๆ ให้แน่นหนา สามารถใช้ไขควงธรรมดา สว่านไฟฟ้า และประแจทำการไข และคลายที่หัวสกรูได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องใช้น็อตตัวเมียยึดที่ปลายเกลียว เนื่องจากส่วนเกลียวของสกรูจะมีความคมอยู่แล้ว จึงทำให้เจาะเข้าเนื้อของวัสดุได้ง่าย และรวดเร็ว
ซึ่งนอกจากนี้ยังมีวิธีการใช้งานในส่วนอื่นๆ อีกหลายประการที่ต้องทำความเข้าใจ ดังนั้นสำหรับท่านใด ที่ต้องการใช้งานสกรูเกลียวปล่อย (น็อตเกลียวปล่อย) บทความนี้ Sendo จึงอยากมาแชร์วิธีการเลือกใช้งานสกรู (น็อต) รวมถึงเทคนิคการยึดเกลียวปล่อยที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณสามารถใช้งานสกรูเกลียวปล่อย (น็อตเกลียวปล่อย) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ทำให้ชิ้นงานเกิดความเสียหาย ซึ่งในเนื้อหาจะมีข้อมูลอะไรที่น่าสนใจบ้างไปดูกันเลย
สกรูเกลียวปล่อย ที่นิยมใช้ในงานทั่วไปมีกี่ประเภท
สำหรับสกรู (น็อต) ประเภทเกลียวปล่อย โดยปกติจะใช้ในงานอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ถอดประกอบได้ ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาสกรูเกลียวปล่อย (น็อตเกลียวปล่อย) ออกมาหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีคุณสมบัติการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเมื่อต้องใช้งาน สกรูเกลียวปล่อย (น็อตเกลียวปล่อย) ควรเลือกให้เหมาะสมกับงาน เพื่อการเจาะ และยึดวัสดุได้อย่างมั่นคงแข็งแรง โดยสกรู (น็อต) ประเภทนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่
- สกรูปลายสว่าน
มี 2 แบบ คือ แบบไม่มีปีก และแบบมีปีก แบบไม่มีปีกจะใช้สำหรับยึดบานพับ หรือบานยึดเข้ากับเหล็ก ส่วนแบบมีปีกจะเหมาะสำหรับการยึดวัสดุที่มีเนื้อ เช่น ไฟเบอร์ซีเมนต์ หรือแผ่นไม้อัดยึดเข้ากับเหล็ก โดยปลายสว่านจะเจาะแผ่นเหล็กให้เกิดรูก่อน จากนั้นตัวปีกของสกรูจะเข้าไปคว้านเนื้อวัสดุทำให้เกิดเป็นโพรง ช่วยลดการแตกหักของเนื้อวัสดุได้ดี และช่วยให้วัสดุยึดเข้ากับโครงเหล็กได้แน่นมากขึ้น
- สกรูปลายแหลม
สกรู (น็อต) ประเภทนี้ จะมีเกลียวตลอดแนวความยาว บริเวณปลายของสกรู (น็อต) จะมีลักษณะเป็นปลายแหลมคม ซึ่งแตกต่างจากสกรูปลายสว่าน (น็อตปลายสว่าน) ที่มีส่วนปลายเป็นลักษณะของดอกสว่าน เหมาะกับการยึดแขวนทั่วไป ใช้ได้ดีกับพุก และงานที่ยึดแบบปล่อยเกลียวทะลุผ่าน สามารถพบเห็นได้บ่อยในงานอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ
วิธีเลือกสกรูเกลียวปล่อย ให้เหมาะสมกับงาน ต้องดูจากอะไรบ้าง?
หลังจากที่ได้ทราบถึงลักษณะ และการใช้งานของสกรูเกลียวปล่อย (น็อตเกลียวปล่อย) แต่ละประเภทกันไปแล้ว ในหัวข้อนี้ Sendo จะมาบอกวิธีเลือก สกรูเกลียวปล่อย (น็อตเกลียวปล่อย) ให้เหมาะสมกับงาน ซึ่งเป็นเคล็ดลับที่ทำให้วัตถุยึดติดแน่น ไม่หลุดออกจากกันง่าย และยังช่วยลดความเสียหายของวัตถุได้อีกด้วย โดยผู้ใช้งานจะต้องคำนึงถึง 5 องค์ประกอบ ดังนี้
1. วัตถุที่ยึดคืออะไร
เป็นสิ่งแรกที่ต้องพิจารณา เพราะสกรู (น็อต) บางชนิดออกแบบมาเพื่อใช้งานกับวัสดุบางประเภทเท่านั้น แต่สกรู (น็อต) บางชนิด ก็สามารถใช้งานได้กับวัสดุหลากหลายประเภท
2. มีแรงสั่นสะเทือนหรือไม่
การที่สกรู (น็อต) เจอแรงสั่นสะเทือนนานๆ อาจทำให้สกรู (น็อต) คลายตัว และก่อให้เกิดอันตรายในภายหลังได้ ผู้ใช้งานจึงจำเป็นต้องเลือกขนาด ลักษณะเกลียว และประเภทของสกรู (น็อต) ที่นำมาใช้อย่างรอบคอบ
3. เลือกขนาดของสกรูให้เหมาะสมกับความหนาของวัตถุ
ในการเลือกสกรู (น็อต) แต่ละครั้ง อย่าลืมพิจารณาเรื่องความหนาของวัตถุ โดยทั่วไปความยาวของสกรู (น็อต) จะต้องสามารถเข้าไปในวัตถุด้านล่าง อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของความหนา นอกจากนี้ควรพิจารณาเรื่องการรับน้ำหนักร่วมด้วย โดยเฉพาะงานติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ หรือชั้นวางของต่างๆ เป็นต้น
4. เลือกประเภทของสกรูให้เหมาะกับการใช้งาน
สกรู (น็อต) แต่ละแบบจะมีลักษณะการใช้งานแตกต่างกัน งานบางชนิดจะใช้สกรู (น็อต) เฉพาะเจาะจง อย่างเช่น สกรู (น็อต) สำหรับติดแผ่นเมทัลชีท มักจะใช้ปลายสกรู (น็อต) ที่เป็นดอกสว่าน เพื่อให้ง่ายต่อการติดตั้ง
5. ต้องการใช้งานภายนอกหรือภายในอาคาร
ก่อนใช้งานสกรู (น็อต) จะต้องพิจารณาว่า ใช้ภายในหรือภายนอกอาคาร เพื่อจะได้เลือกวัสดุของสกรู (น็อต) ที่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ใช้ภายนอกอาคารทั่วไป หรือใช้กับอาคารที่อยู่ใกล้ทะเล ควรเลือกสกรู (น็อต) ที่ทำจากสเตนเลส ไทเทเนียม หรือเคลือบสังกะสี เพราะทนทานต่อการเกิดสนิมได้ดี ไม่ทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานลดลง
แนะนำเทคนิคการยึดเกลียวปล่อย ของ สกรูเกลียวปล่อย ที่ถูกต้อง
เมื่อนึกถึงการเจาะรูสกรู (น็อต) หลายๆ คนอาจจะเข้าใจผิด คิดว่าการเจาะรูร่วมระหว่างวัสดุ 2 ชิ้น จะมีแบบเดียว คือ เจาะรูให้มีขนาดเท่ากัน 2 รู แล้วบีบวัสดุให้แนบสนิทกัน จากนั้นขันเกลียวปล่อยร่วมพร้อมกัน แต่แท้จริงแล้วการเจาะรูในลักษณะนี้ อาจไม่ได้ทำให้วัสดุบางชนิดยึดติดกันอย่างแน่นหนาเสมอไป เพราะวัสดุแต่ละประเภทมีผิวสัมผัส และขนาดแตกต่างกัน ดังนั้นการเจาะรูจึงมีวิธีแตกต่างกันออกไปด้วย โดยแบ่งการเจาะออกเป็น 3 แบบดังนี้
- เจาะนำ
เทคนิคนี้ต้องเจาะรูให้มีขนาดเล็กกว่า หรือเท่ากับขนาดโคนเกลียว (เส้นผ่าศูนย์กลางที่ไม่รวมเกลียว) ถ้าเป็นงานไม้อย่างเช่น ไม้เนื้ออ่อน และไม้เนื้อเหนียว อาจไม่ต้องทำการเจาะนำก็ได้ แต่จะนิยมเจาะนำในประเภทไม้เนื้อแข็ง, ไม้ MDF และไม้ปาร์ติเกิล เป็นต้น เพราะถ้าหากไม่ทำการเจาะนำในขณะที่เจาะไม้ ตัวเกลียวปล่อยอาจทำให้ไม้แตกหักได้
- เจาะผ่าน
การเจาะผ่าน คือ การเจาะรูให้มีขนาดใหญ่กว่าเกลียวภายนอกของเกลียวปล่อยเล็กน้อย นิยมเจาะกับชิ้นงานที่อยู่ด้านบนของการเจาะยึด เพื่อให้เป็นตัวฟรี เมื่อเกิดการดูดของเกลียวปล่อย
- เจาะผาย (เจาะคว้าน)
วิธีการเจาะผาย คือ การเจาะฝังหัว สกรูเกลียวปล่อย (น็อตเกลียวปล่อย) ให้จมลึกลงไปในเนื้อไม้ แต่ในบางกรณีหากเจาะลงบนไม้เนื้ออ่อน ตัวเนื้อไม้อาจดูดสกรู (น็อต) ลงไปเอง
อยากติดตั้งวัสดุทั่วไป Sendo ขอแนะนำ สกรู เกลียวปล่อย หัวเตเปอร์
ถ้าหากพ่อบ้าน แม่บ้าน หรือช่างมือใหม่ท่านใด ที่กำลังมองหาอุปกรณ์ช่างที่ใช้สำหรับติดตั้งวัสดุทั่วไป วันนี้ Sendo ขอแนะนำสกรูเกลียวปล่อย (น็อตเกลียวปล่อย) หัวเตเปอร์ #8 หรือ หัว F สามารถใช้กับงานได้หลากหลายประเภท โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ลักษณะเป็นหน้าตัดเรียบแบนแบบหัวแฉก (+) เป็นเกลียวล้วนตลอดทั้งตัว ส่วนปลายของสกรู (น็อต) จะแหลมคม ไม่หักงอง่าย และไม่มีการผ่าร่อง
- ผลิตจากเหล็กชุบแข็งพิเศษ เคลือบนิกเกิล (Ni) มีความแข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อนสูง และรองรับแรงบิดได้ดี
- ใช้ไขควงแฉกเป็นอุปกรณ์ ในการหมุนส่วนหัวสกรู (น็อต) ฝังเข้ากับผิวชิ้นงาน
- เหมาะสำหรับใช้เจาะและยึด เข้ากับผิวชิ้นงานประเภทไม้อัด พลาสติก และแผ่นโลหะบาง
มองหาสกรูติดตั้งงานโครงสร้าง เลือกซื้อสกรูเกลียวปล่อย ได้ที่ Sendo
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งาน และเทคนิคการยึดเกลียวปล่อยของ สกรูเกลียวปล่อย (น็อตเกลียวปล่อย) ที่เราได้นำมาให้คุณอ่านในบทความนี้ เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง ที่คุณจะต้องรู้ก่อนใช้งานสกรู (น็อต) เพื่อให้ชิ้นงานที่ติดตั้งมีความแข็งแรง และมีประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับลูกค้าท่านใดที่สนใจสกรูเกลียวปล่อย (น็อตเกลียวปล่อย) ประเภทอื่นๆ หรือสินค้าเกี่ยวกับงานช่าง รับรองว่าซื้อที่ Sendo ตอบโจทย์อย่างแน่นอน!
เพราะเราคือ ผู้ผลิต/นำเข้า และจัดจำหน่ายสินค้ากลุ่ม Fasteners and Metal works อาทิเช่น น็อต, สกรู, โลหะภัณฑ์ และ รับตัดแผ่นเพลท, J bolt/L bolt ตามแบบ (Made to order) ด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยได้มาตรฐานสากล ให้กับผู้ประกอบการทุกอุตสาหกรรม
ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่
Line OA : @sendothailand
Phone : 03-316-6999 / 062-398-9494
Facebook : sendothailand
Email : sale@sendothailand.jp