สกรูปลายสว่าน และ สกรูเกลียวปล่อย ใช้งานอย่างไรให้เหมาะสม

การยึดโครงสร้างในงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างไม้ หรือ โครงสร้างเหล็ก วัสดุสำคัญที่ช่างมักจะใช้ในการยึดติด คือ “สกรูเกลียวปล่อย” ซึ่งสกรูเกลียวปล่อย แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สกรูเกลียวปล่อยปลายแหลม กับ สกรูเกลียวปล่อยปลายสว่าน เนื่องจากสกรูเกลียวปล่อยทั้ง 2 แบบ มีหน้าที่ยึดวัตถุสองชิ้นให้ติดกันอย่างแน่นหนา โดยไม่จำเป็นต้องใช้ดอกสว่านเจาะรูนำ จึงนิยมนำไปใช้ในงานยึดแผ่นหลังคา, ไม้ฝา, ไม้อัด, แผ่นผนังเบาในงานก่อสร้าง หรือใช้ในงานอุตสาหกรรมทั่วไป แต่หลายคน อาจจะยังสับสนระหว่าง สกรูปลายสว่าน กับ สกรูเกลียวปล่อย
วันนี้ Sendo จึงอยากพาทุกคนมาทำความรู้จักกับความแตกต่างระหว่าง สกรู ปลายสว่าน กับ สกรูเกลียวปล่อย พร้อมแนะนำวิธีการเลือกใช้งานอย่างเหมาะสม เพื่อทำให้งานโครงสร้างมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

สกรูปลายสว่าน กับ สกรูเกลียวปล่อย ต่างกันอย่างไร ?

สกรูปลายสว่าน

เมื่อถึงเวลาที่ต้องทำงานเกี่ยวกับการยึดติดวัตถุสิ่งของ หรือยึดวัสดุต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน วัสดุที่ได้รับความนิยมเสมอมานั่นก็คือ “สกรู” ซึ่งเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญในงานโครงสร้าง และสกรูที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คือ สกรูเกลียวปล่อย ซึ่งสกรูเกลียวปล่อยปลายแหลม (สกรูเกลียวปล่อย) กับ สกรูเกลียวปล่อยปลายสว่าน (สกรูปลายสว่าน) ถึงแม้ว่าสกรูทั้ง 2 ประเภทนี้จะทำหน้าที่ในการยึดติดโครงสร้าง แต่คุณอาจจะสงสัยใช่ไหมว่า สกรูทั้ง 2 ประเภทนี้แตกต่างกันอย่างไร ? Sendo ได้เตรียมคำตอบมาไว้ให้คุณแล้วในหัวข้อนี้

สกรูปลายสว่าน (Self-Drilling Screw)

สกรู ปลายสว่าน เป็นสกรูที่มีปลายสกรูมีลักษณะคล้ายหัวเจาะสว่าน ซึ่งถูกออกแบบมาให้สามารถเจาะเข้าไปยังเนื้อของวัสดุได้ โดยที่ไม่ต้องเจาะรูนำล่วงหน้า นิยมนำไปใช้ยึดโครงเหล็ก, โครงไม้, หลังคาเมทัลชีท, กระเบื้อง, ไม้ฝา, ไม้อัด หรือผนังเบา เป็นต้น เข้ากับแปที่เป็นเหล็ก สกรูประเภทนี้เป็นที่นิยมในงานโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นงานเหล็ก หรืองานไม้ เพราะช่วยลดขั้นตอนทำให้ประหยัดเวลา เพราะไม่ต้องใช้สว่านเจาะนำ นอกจากนี้สกรูปลายสว่านยังมีให้เลือกอีกหลายแบบ ซึ่งแบ่งตามลักษณะหัว ลักษณะเกลียว หรือความยาว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งาน

สกรูเกลียวปล่อย (Self-Tapping Screw)

สกรูเกลียวปล่อย เป็นสกรูที่มีเกลียว “ตลอด” ทั้งลำตัว และมีปลายแหลมคม แบบไม่ผ่าบาก (หรือไม่ผ่าร่อง) สามารถสร้างเกลียวขณะขันเจาะชิ้นงานได้ มีหน้าที่ใช้สำหรับเจาะหรือยึดวัสดุต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน นิยมนำไปใช้เจาะไม้ เจาะพลาสติก หรือแผ่นเหล็กบาง เป็นต้น หากนำไปใช้กับวัสดุที่มีความหนา จำเป็นต้องใช้สว่านเจาะนำ หรือใช้สกรูปลายสว่านแทน สกรูเกลียวปล่อย หากต้องการใช้ยึดเข้ากับผนังเบาหรือผนังปูน แนะนำใช้คู่กับพุกพลาสติก เพราะ จะช่วยเพิ่มความแข็งแรง และการยึดเกาะให้ดียิ่งขึ้น เช่นการเจาะผนังปูนเพื่อติดตั้งกล่องไฟ นอกจากนี้สกรูเกลียวปล่อย ก็มีให้เลือกอีกหลายแบบเช่นกัน ซึ่งจะแบ่งออกตามลักษณะหัว ความอ้วนของลำตัว หรือความยาว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งาน

โดยสรุปแล้วสกรูทั้ง 2 ประเภทนี้ จัดเป็นสกรูที่มีความสำคัญในงานโครงสร้าง ด้วยคุณสมบัติที่เหมือนกันคือ สามารถเจาะลงพื้นผิวของวัตถุต่าง ๆ ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเจาะรูนำร่อง จึงช่วยให้งานยึดเจาะเป็นไปได้ง่าย แต่ที่สำคัญคือ ช่างต้องเลือกใช้สกรูแต่ละประเภทให้เหมาะกับงาน เพียงเท่านี้ ก็สามารถสร้างงานโครงสร้างที่มั่นคง และแข็งแรงได้แล้ว

 

สกรูปลายสว่านมีลักษณะเป็นอย่างไร ?

สกรูปลายสว่าน

ลักษณะของสกรูปลายสว่าน สังเกตง่าย ๆ คือ มีปลายแหลมคม เป็นแฉกคล้ายกับหัวสว่าน สามารถใช้งานร่วมกับสว่านไฟฟ้า และดอกไขควงได้ ซึ่งมีให้เลือกใช้งานอีกหลายชนิด โดยแต่ละชนิดก็จะมีรูปทรง และคุณสมบัติในการยึดจับชิ้นงานแตกต่างกัน ดังนั้นควรเลือกชนิดของสกรูให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อประสิทธิภาพของโครงสร้างที่ดี โดยแบ่งสกรูปลายสว่าน จะแบ่งตามการใช้งานออกเป็นดังนี้

  1. สกรูปลายสว่านหัวบัททอน หรือ หัวเวเฟอร์ – บริเวณหัวสกรูจะมีปีกแบนกว้าง มีแรงยึดวัสดุต่าง ๆ เข้ากับโครงเหล็กได้ดี ส่วนหัวเจาะปลายสว่านมีเกลียวแหลมคม ทำให้ติดตั้งวัสดุได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับงาน D.I.Y, งานติดตั้งป้าย, งานขันยึดบานพับประตู, บานพับหน้าต่าง, โครงเหล็ก, แปไม้ และวัสดุที่มีพื้นผิวแข็ง
  2. สกรูปลายสว่านแบบมีปีก – ส่วนปีกของสกรูชนิดนี้มีหน้าที่เข้าไปคว้านชิ้นงานด้านบน ทำให้รูขยายใหญ่ขึ้น และเมื่อขันหัวสกรูจนสุดปลายคอเตเปอร์หัวสกรูจะจมลง ทำให้ฝังหัวสกรูได้แน่นเรียบเนียน เหมาะสำหรับงานยึดไม้ฝาเข้ากับโครงเหล็ก โดยไม่ต้องใช้สว่านเจาะนำ เช่น ไม้ฝาเฌอร่า, ไม้อัด, แผ่นยิปซัม
  3. สกรูปลายสว่านหัวหกเหลี่ยมติดซีลยาง – ลักษณะของหัวสกรูจะเป็นรูปทรงหกเหลี่ยม ที่มาพร้อมกับซีลยางรองใต้หัวสกรู มีคุณสมบัติไม่นำไฟฟ้า ทนแดด ป้องกันน้ำรั่วซึม และลบคมของรูสกรูได้ เหมาะสำหรับใช้ติดตั้งหลังคาเหล็กกับแปเหล็ก, ยึดฝาผนัง, บานเกล็ด และแผ่นปิดครอบต่าง ๆ
  4. สกรูปลายสว่านหัวเตเปอร์ – ลักษณะของหัวสกรูเรียบแบน ใต้หัวทรง V Shape ไม่มีหยัก แต่บนหัวมีลักษณะเป็นแฉก (+) ที่สามารถใช้สว่าน จับดอกไขควงขันสกรูไม้ฝาลงบนเหล็กหนาได้ถึง 3.2 มม. ส่วนหัวเจาะปลายสว่านมีเกลียวแหลมคม แข็งแรง ทนต่อสนิม สามารถเจาะชิ้นงานได้อย่างรวดเร็ว แต่มีแรงกดน้อย เหมาะสำหรับการขันยึดชิ้นงานอเนกประสงค์ เช่น งานยึดโครงเหล็ก, ไม้ฝา หรือยึดแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์
  5. พุกยิปซัมปลายสว่าน – วัสดุชนิดนี้เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับสกรูเกลียวปล่อยหรือตะปูเกลียว มีการออกแบบรูปทรงให้เล็ก แข็งแรงทนทาน และมีปลายเกลียวแหลมคม สามารถเจาะทะลุพื้นผิวและยึดเกราะแน่นได้ในเวลาเดียวกัน จึงเหมาะแก่การขันยึดแผ่นฝ้าทั่วไป เช่น แผ่นยิปซั่ม หรือไม้อัด

 

สกรูปลายสว่าน ตอบโจทย์ งานไม้-เหล็ก ทุกรูปแบบ

สกรูปลายสว่าน

สาเหตุที่สกรูปลายสว่าน ตอบโจทย์ทั้งงานโครงสร้างไม้ และงานโครงสร้างเหล็กทุกรูปแบบ นั่นเป็นเพราะว่า สกรูประเภทนี้มีลักษณะพิเศษ คือ ตรงปลายหัวสกรูมีลักษณะเป็นดอกสว่าน ทำให้สามารถเจาะยึดชิ้นงานได้เลย ไม่จำเป็นต้องใช้สว่านเจาะรูนำร่อง หากใช้ยิงวัสดุที่เป็นช่วง ส่วนปลายของไม้ ก็ไม่ทำให้ไม้แตกอีกด้วย ที่สำคัญสกรูปลายสว่านจะผลิตจากวัสดุเหล็ก หรือสเตนเลสเคลือบกันสนิมอย่างดี ทำให้มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกด ไม่หักหรือบิดงอได้ง่าย

ทั้งนี้การใช้งานจะมีประสิทธิภาพหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับช่างด้วยว่า เลือกใช้ประเภทสกรูเหมาะสมกับงานไหม ซึ่งการใช้งานสามารถเลือกได้จากขนาดความยาว และชนิดของเกลียว ทั้งนี้หากพบวัสดุเกิดการชำรุด หัก บิ่น หรืองอ ไม่ควรนำมาใช้อย่างเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และป้องกันไม่ให้งานเกิดความเสียหาย

สรุปง่ายๆ สกรูเกลียวปล่อย หรือ สกรูปลายสว่าน มีส่วนที่เหมือนกัน คือ สามารถเจาะได้ทั้งงานเหล็ก และงานไม้ โดยจะมีส่วนที่ต่างกัน คือ สกรูเกลียวปล่อยปลายแหลม เจาะไม้ได้ แต่เจาะเหล็กได้ไม่เกิน 1 มม. ส่วน สกรูเกลียวปล่อยปลายสว่าน เจาะเหล็กหนาได้ และเจาะส่วนปลายของไม้ได้ดี เพราะไม่ทำให้ไม้แตก

Sendo Fastener จำหน่าย โลหะภัณฑ์ คุณภาพสูง ราคาประหยัด สำหรับช่างมืออาชีพ

จากที่อ่านมาจะเห็นเลยว่า ถึงแม้สกรูจะเป็นวัสดุชิ้นเล็ก ๆ แต่บอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ไม่เล็ก และไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด เพราะสกรูเป็นวัสดุที่ขาดไปไม่ได้เลยสำหรับวงการอุตสาหกรรม หรืองานติดตั้งชิ้นส่วนต่าง ๆ และถ้าหากคุณเองสนใจอยากสั่งซื้อ สกรูปลายสว่าน หรือ สินค้าอุตสาหกรรมประเภทอื่น ๆ เพื่อนำไปใช้งาน ที่ Sendo Fastener ตอบโจทย์แน่นอน! เพราะที่นี่เราเป็นทั้งผู้ผลิต / นำเข้า และจัดจำหน่ายสินค้าโลหะภัณฑ์คุณภาพสูง ในราคาประหยัด ซึ่งเรามีหลักการให้บริการดังนี้

  • มุ่งเน้นคุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐาน
  • ผลิตรวดเร็ว ทันใช้งาน
  • มีบริการหลังการขายดีเยี่ยม ได้มาตรฐาน
  • จัดส่งรวดเร็ว และสามารถเช็ก Tracking ได้

ทุกรายการสินค้าจะถูกผลิตด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย ได้มาตรฐานสากล ให้กับผู้ประกอบการทุกอุตสาหกรรม เพราะ Sendo เราเชื่อว่าการเลือกใช้วัสดุในการก่อสร้างดี ก็จะยิ่งช่วยส่งเสริมให้งานออกมาอย่างมีคุณภาพ สามารถใช้งานได้ยาวนาน

 

 

Sendo Fastener แหล่งจำหน่าย สินค้าโลหะภัณฑ์ ได้มาตรฐาน ซื้อง่าย ครบ จบในที่เดียว!

หากคุณสนใจสั่งซื้อ สินค้าโลหะภัณฑ์ เหล็กสำหรับติดตั้งโครงสร้างเหล็ก หรือยึดแปเหล็ก รับรองว่าซื้อที่ Sendo Fasteners ได้สินค้าครบ จบในที่เดียว! เพราะที่ Sendo เราเป็นทั้งผู้ผลิต / นำเข้า และจัดจำหน่ายสินค้ากลุ่ม Fasteners and Metal works อาทิเช่น สกรู (น็อต), โลหะภัณฑ์ และ รับตัดแผ่นเพลท, J bolt / L bolt และยังสามารถผลิตสกรูตามสเป็กที่ลูกค้าต้องการ แบบ Made to Order (OEM)

ที่ Sendo เรามีความเข้าใจสินค้าและผู้ประกอบการเป็นอย่างดี สกรูทุกชิ้นผลิตจากโรงงานในประเทศไทย (Made in Thailand) ใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยได้มาตรฐานสากล ผลิตสินค้าให้กับผู้ประกอบการทุกอุตสาหกรรม ทำให้ได้รับความไว้วางใจ เพราะ สามารถเข้าถึงการผลิตของเรา ได้ในทุกขั้นตอน ที่สำคัญหากคุณมีข้อสงสัยในเรื่องใด ทางเรามีทีมช่างที่พร้อมให้คำปรึกษาคุณ อย่างใกล้ชิด เกี่ยวกับสินค้าภายในร้านทุกประเภท

 

ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่

Line OA : @sendothailand
Phone : 03-316-6999 / 062-398-9494
Facebook : sendothailand
Email : sale@sendothailand.jp

Shopping cart

0
image/svg+xml

No products in the cart.

Continue Shopping